วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

PHP array_sum()

PHP array_sum()นำค่าที่อยู่ใน array มารวมกัน

Syntax
---------------------
   array_sum($array) ;
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$array = array('1','2','3');
echo array_sum($array);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 
6

PHP sin()

PHP sin() หาค่าของ sine

Syntax
---------------------
   sin($value) ;
---------------------

Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
echo sin(60); 
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ
-0.304810621102

PHP ord()

PHP ord() แปลงตัวอักษรเป็นรหัส ASCII
 
syntax
---------------------
   ord($string) ;
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
echo ord('a');
echo ord('b');
echo ord('c');
echo ord('d');
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 

97
98
99
100

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

PHP chop()

PHP chop() ตัดช่องว่างด้านหลังของข้อความ
Syntax
---------------------
   chop($string) ;
---------------------

Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$test = 'loveu     ';
echo chop($test);
echo 'too';
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 

loveutoo

PHP sha1()

PHP sha1() เป็นฟังก์เข้ารหัสผลที่ได้ออกมาเป็นรหัส 40 ตัว เท่ากันหมด

Syntax
---------------------
   sha1($string)
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
         echo sha1('oon_pol@hotmail.com1234'');
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 

4cea125438eec851a6ed8e125d94424484523908

PHP unlink()

PHP unlink() เป็น Function ใช้ในการลบไฟล์ 

Syntax
---------------------
  unlink(ที่อยู่และชื่อไฟล์ที่ต้องการจะลบ);
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
         unlink('C:\oonpol.txt');
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 
ถ้าลบไฟล์นั้นได้ ก็จะ return ture
ถ้าลบไฟล์นั้นไม่ได้ ก็จะ return false

PHP is_string()

PHP is_string()  เป็นฟังก์ชั่นที่ตรวจสอบค่าว่าเป็น string หรือไม่

Syntax
---------------------
   is_string($string)
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
         if (is_string('oon_pol@hotmail.com'))
         {
             echo 'true';
         } 
         else
         {
              echo 'false';
         } 
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ

 true

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

PHP strstr()

PHP strstr() ตัดข้อความบางส่วนตั้งแต่ตัวแรกที่ค้นพบจนถึงตัวสุดท้าย

Syntax
---------------------
   strstr($string,$cut)
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
         echo strstr('oon_pol@hotmail.com','@');
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ oon_pol

PHP strrev()

PHP strrev() เรียงสลับข้อความจากหลังไปหน้า

Syntax
---------------------
   strrev($string)
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
         echo str_repeat('hello');
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ
 olleh

PHP str_repeat()

PHP str_repeat() แสดงข้อความซ้ำ ๆ ตามความต้องการ
 
Syntax
---------------------
   str_repeat($string,$int)
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
         echo str_repeat('hi*-*',3);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 

hi*-*hi*-*hi*-*

PHP file_exists()

 PHP file_exists() เป็น Function ใช้เช็คว่ามีไฟล์อยู่จริงหรือไม่


Syntax
---------------------
   file_exists(Files);
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
    if(file_exists('C://aon.txt'))
    {
         echo 'มีไฟล์นี้อยู่';
    }
   else
    {
        echo 'ไม่มีไฟล์นี้อยู่';
    }
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 

ถ้ามีไฟล์นั้นอยู่จริงก็ แสดง ว่า มีไฟล์อยู่จริง
แต่ถ้าไม่มีไฟล์นั้น ก็จะแสดง ไม่มีไฟล์นี้อยู่

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

PHP number_format()

PHP number_format() แปลงข้อความเป็นชนิดรูปแบบตัวเลขหลักร้อยหรือทศนิยม
Syntax
---------------------
   number_format('$number');
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
echo number_format('15555');
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ 


15,555

PHP rtrim()

PHP rtrim() ตัดช่องว่างด้านหลังของข้อความ
Syntax
---------------------
   rtrim($string) ;
---------------------

Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$test = 'loveu     ';
echo rtrim($test);
echo 'too';
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 

loveutoo

PHP ltrim()

PHP ltrim() ตัดช่องว่างด้านหน้าข้อความ


Syntax
---------------------
   ltrim($string) ;
---------------------



Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$test = '         loveu';
echo ltrim($test);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ loveu

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP md5()

PHP md5() เป็นการเข้ารหัส 128bit ข้อความจะยาวหรือสั้น ก็จะได้รหัสจำนนวน 32 ตัวเท่ากันหมด

Syntax
---------------------
   md5() ;
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$test = 'loveu';
echo md5($test);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ 
5b0535cca532b8ae920269ab4bedec21

PHP strlen()

PHP strlen() หาความยาวของข้อความ

Syntax
---------------------
   strlen() ;
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$test = 'nathapol';
$show = '25 33';
echo strlen($test);
echo strlen($show);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ  8
5
 PHP Empty() ตรวจสอบว่าตัวแปรดังกล่าวมีค่าหรือไม่โดย return ค่าเป็น true หรือ false

Syntax
---------------------
   empty() ;
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$test = '';
$show = 'hello';
echo 'test = '.empty($test);
echo 'show = '.empty($show);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ 
test = 
show = 1 

PHP explode()

PHP explode() แยกข้อความให้อยู่ในรูปแบบของ array โดยใช้เครื่องหมายเป็นตัวแยก
 
Syntax
---------------------
   explode() ;
---------------------



Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$test = 'nathapol-lartsaptawee-2533';
$show = explode('-',$test);
echo $show[0];
echo $show[1];
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



ผลที่ได้คือ 
nathapol
lartsaptawee

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP header()

PHP header() เป็น function ที่ทำหน้าที่ บอก browser ว่า เรากำลังจะส่งออกไปให้  ทาง http หน้าไหน

Syntax
---------------------
   header() ;
---------------------
ถ้าอยู่ใต้ คำสั่ง Output จะ eror


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php

  header ('http://www.google.com');
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



ผลที่ได้คือ   
ไปหน้า www.google.com

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP Global() ตัวแปรโกลบอลเมื่อมีการประกาศแล้ว สามารถทำการเรียกใช้ค่าตัวแปรนั้น ๆ ได้จากชื่อตัวแปรโดยตรงและยังถูกจำเข้าสู่หน่อยความจำ คือตัวแปรโกลบอลสามารถเรียกใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน function และสามารถเรียกใช้งานได้ทั้งหน้า

Syntax
---------------------
   $GLOBALS[' value' ];
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php

$value = 'love globals';
function testGlobal()
{
      $test = $GLOBALS[' value' ];
      echo $test;
}
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



ผลที่ได้คือ
love globals

PHP join()

PHP join() รวม Array เป็นข้อความ 

Syntax
---------------------
   join( $value )
---------------------



Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php

$value = array('nathapol','hansam');
echo  join (','$value);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ
 nathapol,hansam

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP implode()

PHP implode() รวม Array เป็นข้อความ 

Syntax
---------------------
   implode( $value )
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php

$value = array('nathapol','hansam');
echo  implode (','$value);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ
 nathapol,hansam

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP strtoupper()

PHP strtoupper() เปลี่ยนข้อความให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่

Syntax
---------------------
   strtoupper ( $value )
---------------------



Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$value = 'NaThapol';
echo  strtoupper ($value);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ
 NATHAPOL

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP strtolower()

PHP strtolower() เปลี่ยนข้อความให้เป็นตัวพิมพ์เล็ก

Syntax
---------------------
  strtolower ( $value )
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$value = 'NaThapol';
echo strtolower ($value);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ 
nathapol

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP strlen()

PHP strlen() หาความยาวของข้อความ
 
Syntax
---------------------
strlen ( $value )
---------------------



Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$value = 'nathapol';
echo strlen ($value);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ 
8

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP ucfirst()

PHP ucfirst() เปลี่ยนตัวอักษรตัวแรกให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่

Syntax
---------------------
ucfirst (string);
---------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$str = 'nathapol';
echo ucfirst ($str);
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ 
Nathapol

PHP getrandmax()

PHP getrandmax() ค่าสูงสุดจากการสุ่มตัวเลข 

Syntax
-----------------------------
getrandmax ();
----------------------------


Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
echo getrandmax ( );
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ผลที่ได้คือ

เลขที่มากที่สุด ที่ได้จากการสุ่้มตัวเลข

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP min()

PHP min() ฟังก์ชั่นใช้สำหรับหาค่าต่ำสุดใน Array
 
Syntax
-------------------------------- 
min ($value);
--------------------------------


Example

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
<?php
$value = 1,2,3,4,5;
echo min ($value) ;
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ผลทีได้คือ


1
PHP continue() เป็นคำสั่งให้หยุดการทำงานของfuction นั้้น แต่ยังข้ามไปทำเงื่อนไขต่อไป

Syntax
--------------------------
coutinue ( );
--------------------------

Sample

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
for ( $a=0;$a<3;$a++)
{
     if($==2)
     {
            countinue ();
     }
     echo $a;
}
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
 ผลที่ได้คือ 
0
1
3

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP File( )

PHP File (ชื่อตัวแปร) เป็นฟังก์ชั่นสำหรับรับค่าจากการอัพโหลดไฟล์

Syntax
--------------------------------------
$_FILES [ ค่าที่ส่งมา]
--------------------------------------

Example

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?PHP
  $upload =$_FILES ['var'];

$upload ['var']['name'] ; //แสดงชื่อไฟล์
$upload ['var']['type'] ; //แสดงประเภทของไฟล์
$upload ['var']['size'] ;//แสดงขนาดของไฟล์มีหน่วยเป็นไบต์
$upload ['var']['tmp_name'] ; // แสดงเท็มสำหรับการอัพโหลด
$upload ['var']['error'] ; // แสดงรายละเอียดข้อผิดพลาด
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP exit()

PHP exit() หยุดการทำงานและโปรเซสทั้งหมด

Syntax

------------------------
 exit ( );
------------------------


Example


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
echo "A";
exit();
echo "B";
?>
 *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ผลที่ได้คือ

A

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP break()

PHP break() เป็นคำสั่งให้หยุดและหลุดจาก for, foreach, while, do-while or switch คือมีเจอคำสั่งนี้โปรแกรมจะหลุดออกจาก loop เหล่านี้ทันที

Syntax


------------------
break();
---------------------

Example

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
for($a=9;$a<5;$--)
{
     if($a==8)
      {
            echo "stop" ;
      }
    echo "Go";
}
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ผลที่ได้คือ
Gostop

PHP isset()

ฟังก์ชั่น isset() จะทำหน้าที่ตรวจสอบว่ตัวแปรนั้นมีอยู่จริงหรือไม่
Syntax
-----------------------------------------
isset ( ชื่อตัวแปร );
-----------------------------------------

Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

$a = 0;
echo 'a='. isset ( $a )."<br />";
echo 'b='. isset ( $b ) ;

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ผลที่ได้คือ
a= 1
b=
a ที่เป็น 1 เพราะ  ส่งค่าเป็น true
b ที่ไม่มีค่า เพราะ ไม่มีตัวแปร

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

Function mktime( )

Function mktime( )  เป็น ฟังก์ชั่นที่ นำเอา วั น/เดือน/ปี ปัจจุบัน มาลบกับวันเดือนปีอีก 1 ปีข้างหน้า พร้อมหารด้วย 86400 เพื่อทำให้ออกมาเป็นจำนวนวันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลายแบบ

Syntax
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
mktime(hour,minute,second,month,day,year)
hour ค่า 0-23 หรือ date("H")
minute ค่า 0-59 หรือ date("i")
second ค่า 0-59 หรือ date("s")
month ค่า 1-12 หรือ date("n")
day ค่า 1-31 หรือ date("j")
year ค่า ปีเช่น 2003 หรือ date("Y")
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

Function date

function date  ใช้คืนค่า วันที่และเวลาปัจจุบัน ตามรูปแบบที่กำหนดไว้ 
Syntax
 -----------------------------------------
date ( format, timestamp );
 -----------------------------------
ตัวแปร format มีคีย์เวิร์ดดังนี้
c แสดง "ปี-เดือน-วัน ชั่วโมง:นาที:วินาที"
r แสดง "วัน, วันที่ เดือน ปี ชั่วโมง:นาที:วินาที"
D, l แสดง ชื่อวันแบบย่อ และแบบเต็ม ตามลำดับ ( Sun, Sunday )
j, d แสดง วันที่ 1-31 และวันที่ 01-31 ตามลำดับ
M, F แสดง ชื่อเดือนแบบย่อ และแบบเต็ม ตามลำดับ ( Jan, January )
n, m แสดง เดือนที่ 1-12 และเดือนที่ 01-12 ตามลำดับ
y, Y แสดง ปีสองหลัก และปีสี่หลัก ตามลำดับ ( 99, 1999 )
G, H แสดง ชั่วโมง 0-23 และชั่วโมง 00-23 ตามลำดับ
g, h แสดง ชั่วโมง 1-12 และชั่วโมง 01-12 ตามลำดับ
i แสดง นาที 00-59
s แสดง วินาที 00-59
S แสดง ตัวย่อลำดับของวันที่ เช่น st, nd, rd, th
a, A แสดง am, pm และ AM, PM ตามลำดับ
z แสดง วันที่ของปี ( 0-365 )
w แสดง วันที่ของสัปดาห์ ( 0-6 )
W แสดง สัปดาห์ที่ของปี
t แสดง จำนวนวันของเดือน ( 30, 31 )
U แสดง timestamp หน่วยวินาที
O แสดง เวลาที่ห่างจากกรีนิส หน่วยชั่วโมง
L แสดง 1 คือปีอธิกมาส และ 0 คือปีที่ไม่ใช่อธิกมาส
T แสดง เขตเวลา เช่น SE Asia Standard Time
Z แสดง เขตเวลาหน่วยวินาที ( -43200 ถึง 43200 )
 
example 
 *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
echo date ( "d/m/y" ); 
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ผลที่ได้ ข้อ คือ วัน เดือน ปี ปัจจุบัน ครับ 

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP Do While ( )

PHP Do While ( ) ฟังก์ชั่น นี้ จะทำคำสั่งก่อนโดยไม่สนใจว่าเงื่อนไขจะถูกหรือไม่ แล้ว ถึง จะทำการเช็คเงื่อนไข หรือจะให้จำง่ายๆ คือ ทำก่อนเช็ค

Syntax
 -----------------------------------
do
{
      คำสั่ง
}
while( เงื่อนไข )
 -----------------------------------
Example
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$exam = 4 ;
do
{
 echo 'love PHP';
$exam--;
}
while ($exam>5)
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
Demo

love PHP

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP While ( )

PHP While ( ) จะทำการตรวจเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จึงจะืำทำคำสั่ง ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ จะหลุดออกจาก loop
Syntax
------------------------------------
while (เงือนไข)
{
     คำสั่ง
}
------------------------------------
ตัวอย่างเช่น
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$exwhile =6 ;
while ($exwhile <= 5)
{
      echo 'รักPHP' <br />;
      $exwhile -- ;
}
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ผลที่ได้คือ
รักPHP
รักphp
?>

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP Include( )

PHP Include คือการแทรกไฟล์ หรือ การเอาโค๊ดจากไฟล์นั้นๆมาแทรกใส่ไฟล์ที่ต้องการโดยไม่จำเป็นต้องเขียนใหม่ ตัวอย่างเช่น การ Connect DataBase ต้องมีการ connect ทุกหน้าที่มีการกระทำต่อฐานข้อมูล
เพราะฉะนั้นเราต้องใส่ พิมพ์ Code Connect ทุกหน้า แล้วถ้าเกิด มีการเปลี่ยนแปลงหรือ พิมพ์ Code ผิด เราก็ต้องมานั่งแก้ทุกหน้าเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงมีการ Include ขึ้นมาเพื่อ สะดวกต่อการแก้ไขและลดระยะเวลาในการพิมพ์ Code Connect
งั้นเรามาดู Syntax กันครับ
-------------------------------------
<?php
include ( 'ชื่อไฟล์' );
?>
------------------------------------
เมื่อโปรแกรมไม่พบไฟล์ดังกล่าวโปรแกรมจะแสดงข้อความเตือน Warning
------------------------------------------------------------------------------------------

Warning: include(nofile-phpPageInclude.php) [function.include]: failed to open stream:
No such file or directory in C:\AppServ\www\myphp\phpInclude.php on line 9


------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวอย่างเช่น
ex1.php 
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
$strName = 'Nathapol' ;
$strLastname = 'Lartsaptawee';
?> 
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ex2.php
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
<?php
include ('ex1.php') ;
echo $strName <br>;
echo $strLastname <br>;
?>
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ผลที่ได้นั้นก็คือ

Nathapol
Lartsaptawee

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554

PHP Connect DataBase

วันนี้เราจะมาพูดถึง การติดต่อฐานข้อมูล ซึ่ง การที่จะทำเว็บไซด์ เว็บบอร์ด หรือ ทำงานระบบใหญ่ๆ
จำต้องมีการเก็บข้อมูลทั้งนั้น งั้นเรามาเริ่มกันเลดีกว่าครับ
การ Connect DataBase จะ มีอยู่ 2 คำสั่ง ที่ต้องใช้

1. function mysql_connect ();
$conn = mysql_connect ("localhost","username","password") ;
คำสั่งนี้เป็นคำสั่งที่ติดต่อกับ Mysql

2. function mysql_select_db();
mysql_select_db ("ชื่อของData Base",$conn)
คำสั่งนี้เป็นคำสั่งที่ติดต่อกับ ฐานข้อมูล
ยังมีอีกคำสั่งนึงที่ผมแนะนำ คือ
function or die (" ข้อความที่แสดง"); ข้อความจะแสดงเมื่อ ERROR
ยกตัวอย่างเช่น
---------------------------------------------------------------------------------------------------
<?php
$host = 'localhost';
$username = 'root';
$password = '1234';
$Database = 'aon';   //ชื่อฐานข้อมูล
$conn = mysql_connect ($host,$username,$password) or die ("ไม่สามารถติดMysqlได้");
mysql_select_db ($Database,$conn) or die ("ไม่สามารถเลือกฐานข้อมูลได้");
?>
----------------------------------------------------------------------------------------------------

PHP JavaScript alert ()

วันนี้เราจะ เรียนรู้ Function ของ JavaScript กันสัก 1 ฟังก์ชั่น นั้นก็คือ alert()
คุณสมบัติของ alert นั้นก็ คือ แสดงข้อความต้อนรับ หรือ ข้อความเตือนเช่น
ตัวอย่างที่ 1 
เมื่อ user ได้เข้ามาสู่หน้าเว็บไซด์ หรือ โปรแกรม เราจะให้มีข้อความเด้งขึ้นมาเป็น
ข้อความทักทายว่า ยินดีต้อนรับ
---------------------------
<script>
alert ('ยินดีต้อนรับ')
</script>
---------------------------
ตัวอย่าที่2
เมื่อ user ได้เข้ามาสู่ หน้า Login หรือ หน้า สมัครสมาชิก ซึ่งเป็นหน้า Form ที่ต้องการ
Input จาก user ในที่นี้ ผมจะยกตัวอย่างหน้า สมัครสมาชิกครับ
สมมุติว่า user ไม่ได้กรอกข้อมูลในช่อนที่สำคัญ เราจะให้ แสดง ข้อความเตือน
ให้ user กรอก ข้อมูลช่องนั้นๆ
ตอนนี้เราก็รู้กันแล้ว ว่า  alert () คือ คำสั่ง ที่่แสดงข้อความ ต่อไปเราจะมาดูการใช้คำสั่นกัน
รูปแบบการใช้ฟังก์ชั้น
alert ('ข้อความ') เนื่องจาก alert เ็นคำสั่งของ JavaScript ดังนั้นเราต้องเปิด TAG JavaScript
 --------------------------------------------
<script>
if (ฟิว ID ==' ' )
{
   alert ('กรุณากรอก ID ด้วยครับ');
}
</script>
--------------------------------------------

PHP MAX()

วันนี้ เราดู ฟังก์ชั่นที่ หาตัวเลขที่มีค่ามากที่สุดกันครับ โดยไม่ต้่องมานั่งเช็ค if else นั้นคือ
function max()  งั้นเรามาดูรูปแบบการใช้งานกันก่อนนะครับ
-----------------------------------------------------------------
max ($array)  หรือ max ( 1,5,3,2,4,8)
-----------------------------------------------------------------
เมื่อ ทำการรันผลที่ได้ออกมา ก็ จะเป้นตัวเลขที่มากที่สุดครับ
นั้นคือ เลข 8 ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

PHP round()

function round() เป็นฟังก์ชั่นหนึ่งที่ไว้สำหรับจัดการกับตัวเลข
ฟังก์ชั่นนี้จะทำงานอย่างไร มีอะไรเป็นกดเกณฑ์
1.การปัดเศษทศนิยม จะปัดขึ้น หรือ จะปัดลง ขึ้นอยู่กับเ๋ศษนั้น มีค่าเป็นเท่าไหร่
   หากเลขทศนิยมอยู่ระหว่างเลข 0-4 ก็จะถูกปัดลง แต่ถ้่าเลขทศนิยมอยู่ระหว่างเลข 5-9 ก็จะถูกปัดขึ้น
2.หากต้องการปัดเศษจำนวนเต็ม ก็ไม่จำเป็นต้องระบุจำนวนหน่วยทศนิยม
3.หากระบุจำนวนหน่วยทศนิยมติดลบ การปัดเศษ จะปัดตามจำนวนหลักที่ติดลบ เช่น -3 จะหมายถึง ปัดเศษของหลักร้อย เป็นต้น
รูปแบบของ function round()
round(ข้อมูลตัวเลข,จำนวนหน่วยทศนิยม)
มาดูตัวอย่างกันนะครับ แล้วผมจะตั้งข้อสังเกตให้ได้ทราบกัน
<?php
echo round(5.2, 0). "<br>";
echo round(5.6, 0). "<br>";
echo round(5.4). "<br>";
echo round(1.958461, 2). "<br>";
echo round(1241854, -3). "<br>";

?>
พอรันผลลัพธ์ของโค้ดนี้แล้ว สิ่งที่เราจะได้ก็คือ
5
6
5
1.96
1242000

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

การเรียกใช้ Functions

function โดยทั่วไปฟังก์ชั่นแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ แบบคืนค่า กับ ไม่คืนค่า
โดยแบบคืนค่า กล่าวคือ มีค่าที่ return กลับมานั้นเอง โดย php จะใช้คำสั่ง return ในการคืนค่า ดูตัวอย่างกันเลยดีกว่าครับ
จากตัวอย่างผมจะสร้าง function ในการบวกตัวเลข 2 จำนวน โดยการส่งค่าเข้าไปในฟังก์ชั่น
-----------------------------------------------------------------
<?php
function addNumber($x, $y){
     $n = $x + $y;
     return $n;
}

$result = addNumber(4, 5);
echo $result; //ผลลัพธ์ที่ได้คือ 9
?>
-----------------------------------------------------------------
ต่อไปเป็นตัวอย่าง function แบบไม่คืนค่า จะเป็นการเขียน function ในการติดต่อฐานข้อมูล และ เลือกฐานข้อมูลใน function เดียวกัน
-----------------------------------------------------------------
<?php
function myConnectDB($host, $user, $pass, $dbname){
    mysql_connect($host, $user, $pass);
    mysql_select_db($dbname);
}

//เรียกใช้ function
myConnectDB("localhost", "bigquery", "passwd", "bigquery_db");
?>
-----------------------------------------------------------------

อย่างนี้เป็นต้น จากตัวอย่างเป็นตัวอย่างง่ายๆ เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง function ทั้ง 2 แบบ และจากตัวอย่างจะเห็นการส่งค่าเข้าไปในฟังก์ชั่น เรียกว่า parameter

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

การเปิด Tag PHP

วันนี้เราจะมา ศึกษากันเรื่อง การเปิด tag PHP โดย การใส่<? ?> แต่ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบที่สามารถเปิด tag PHP ได้เหมือนกัน และยังคล้ายๆกันอีกด้วย คือ <?php ?>
บางท่านอาจจะรู้แล้วว่ามีการเปิด tag php แบบนี้อยู่
บางท่านอาจสงสัยว่า การเปิด tag ทั้ง 2 แบบนี้ ต่างกันอย่างไร
การ เปิด tag แบบนี้ จะมองข้อมูลข้างในทั้งหมดเป็น php โดยที่ไม่ต้องตรวสอีก ว่าเป็น PHP หรือไม่ ซึ่งจะช่วย เพิ่มความเร็วในการประมวลผลอีกด้วยครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องอยู่กับผู้เขียนชื่นชอบแบบไหน และขึ้นอยู่กับสถานะการณ์นั้นๆไป

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

CONVENTION

CONVENTIONการเขียน Code หรือ Programming ที่ต้องทำงานกันเป็น "ทีม" ควรมีบรรทัดฐานในการเขียน code "Convention "จะทำอย่างไร ให้ Programmer คนอื่น สามารถ ดู Code ของเรา แล้วง่าย ต่อการเพิ่มติม และ แก้ไข เพื่อ ความรวดเร็วในการทำงาน เช่น รูปแบบการเขียนคำสั่ง
 if สมมุติว่า ซ้อนกันหลายชั้น
การเขียน แบบที่1
if ( ){  if( ){ if( ){  } } }
การเขียนแบบที่ 2
if( ){
       if( ){
              if(){
            }
      }
}
การเขียนแบบที่ 3
if( )
{
       if( )
     {
              if( )
            {
            }
      }
}
ระหว่าง 3 แบบ คุณคิดว่าแบบไหนดูง่ายกว่ากัน การ เปิดปิดของ { } ลำดับ ความสำคัญ